แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 785: สงสัย นิดนึงครับ  (จำนวนคนอ่าน 9174 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/27/10 เวลา 16:28:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

พี่หมอหนิงครับ  
ผมเคยรักษารากฟันมาตอนเด็กๆ แต่ยังทำไม่เส็ด แล้วก็เว้นมาสิบปี จนกระทั้ง เมื่อปีที่แล้ว หมอบอกผมว่าฟันนี้ต้องรี่อ รักษารากฟันไหม่ ครับ ผมเคยได้ยินมีคนบอกว่า ถ้าเราไม่รักษารากฟัน อาจทำให้เกิดซีส  (ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือไร แต่เขาบอกว่า มันจะส่งผลไม่ดีไปทั้งร่างกาย)  
 
ผมเลยสงสัยว่า ผม เว้นไว้ตั้งสิบปีแล้ว ไม่รู้ว่า สิ้งผิดปกตินี้เกิดกับผมแล้วยัง จะสังเกตอย่างไรได้บ้างครับ แล้วมันจริงริป่าวครับ  
 
ขอบคุนมากครับผม
ส่งโดย: Deen
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 5  
   
118.173.183.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 06/27/10 เวลา 18:11:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ซีสต์คือถุงน้ำ ประมาณว่า พอเชื้อโรคกัดกินร่างกายเราแล้วร่างกายก็พยายามต่อสู้ล้อมกรอบเชื้อโรคให้อย ู่ในวงจำกัด พอล้อมกรอบมันเสร็จ ตรงกลางก็ตาย เน่าสลายลง กลายเป็นน้ำ  
 
ซีสต์อันตราย เพราะมันหายยาก เวลาเรากำจัดซีสต์ไปแล้ว เนื้อตรงนั้นมันจะหายยาก กระดูกหรือเนื้อเยื่อก็จะแหว่งโบ๋ นานกว่าจะหาย บางกรณีก็กลับมาเป็นใหม่ได้ บางชนิดก็กลายเป็นมะเร็งได้
 
อย่างไรก็ตาม ซีสต์มีหลายชนิด ความรุนแรงต่างกัน ซีสต์ที่เกิดจากฟันผุเกิดเป็นซีสต์ที่ปลายรากฟัน ต้องผ่าตัดควักออก  
 
การสังเกต ด้วยตัวคนไข้เองคงทำไม่ได้ ต้องให้คุณหมอตรวจดู ต้องดูฟิล์มเอ็กซเรย์ประกอบ เรื่องเวลากี่ปี จะกลายเป็นซีสต์หรือไม่นั้น ก็ไม่แน่นอนค่ะ บอกไม่ได้
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9099  
   
61.90.109.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 06/27/10 เวลา 21:02:42 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุนมากครับ
 
  ยังมีอีกนิดนิงครับ คือตอนนี้ผมยังอยู่ในขั้นตอนการรักษา นะครับ
เห็นเขาบอกว่า อาจต้องผ่าตัดปลายราก อยากทราบถึงเรื่องความเสี่ยงนะครับ ว่า เสี่ยงมากไม่ โอกาสเสี่ยงที่อาจเกิดขิ้นเป็นไร ได้บ้างครับผม
 
ขอขอบคุนอีกครั้งครับ
ส่งโดย: Deen
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 5  
   
118.173.182.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 06/27/10 เวลา 21:45:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

- การผ่าตัดปลายรากเป็นวิธีรักษาเพิ่มเติมประกอบการรักษารากฟันกรณีที่โรคปลาย รากฟัน (อาจเป็นซีสต์หรือไม่เป็นก็ได้) มันไม่หาย ก็เลยต้องใช้วิธีนี้(การผ่าตัดปลายราก) ช่วย
- วิธีการ จะผสมผสานระหว่างการผ่าตัด (คล้ายๆ การผ่าฟันคุด) และการอุดฟัน+รักษารากฟัน คือ หมอจะฉีดยาชา จากนั้นก็จะผ่าตัดเปิดเหงือก เปิดกระดูก จนถึงปลายรากฟัน จากนั้นก็ควักเอาซีสต์ (ถ้ามี) ขูดเกลาทำความสะอาดปลายรากฟัน ล้างทำความสะอาด จากนั้นก็จะอุดปิดปลายรากฟันย้อนกลับ จากนั้นก็จะผ่าตัดปิดแผล จากนั้นก็รอให้แผลหาย // จากนั้นอาจต้องรักษารากฟันใหม่ หรือวางแผนการรักษาอย่างอื่นต่อไป
- ความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นคือ ถึงแม้จะทำการผ่าตัดปลายรากแต่มันก็ยังไม่หายอยู่ดี/ หรืออาจมีการติดเชื้อที่แผล /หรืออาจเกิดเหงือกอักเสบซ้ำซ้อน /นอกนั้นก็ทั่วไป เช่น ความเจ็บปวด การบวม แผลอักเสบ
 
ลองดูที่เว็บนี้ประกอบ http://www.silomdental.com/dental_thai/root_canal_treatment2.html
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 06/27/10 เวลา 21:48:58 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9099  
   
61.90.109.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 06/27/10 เวลา 22:01:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุมพี่หมอหนิง มากๆ ครับ
 
คือ หมอที่รักษาผม เขาบอกว่า ถ้าถอนเลยก็จะตัดปัญหาทุกอย่างอะครับ
 
แต่มันเป็นฟันหน้า ถ้าถอนเลย คงความหล่อลดลงแน่เรยครับ(อิอิอิ) ผมกังวลว่า ถ้ามันไม่หาย เราควรทำไงดี ใส่ฟัน ปลอมตอนอายุ ยี่สิบ นี้ คงอายเพื่อนหน้าดูเรยครับ
 
ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
 
ส่งโดย: Deen
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 5  
   
118.173.185.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 06/27/10 เวลา 22:50:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

วิธีการดังกล่าวก็เป็นทางเลือกการรักษาหนึ่ง
 
หากผ่านวิธีนี้ไปก็หมดแล้วค่ะ ก็คงต้องถอนออก
 
เมื่อถอนออกแล้ว ก็ต้องใส่ฟันปลอม  
 
ฟันปลอมนั้นมีหลายแบบมาก รวมทั้งหลายราคาด้วย ความสวยงาม การใช้งาน ข้อจำกัดในการทำ ก็แตกต่างกัน  
 
ฟันปลอมที่สวยและดีหน่อย คือรากเทียม แต่แพงประมาณ 5 หมื่นขึ้น  
 
ก็เอาไว้ค่อยปรึกษาๆ ไปแล้วกันนะคะ เพราะเรื่องมันยาว มีรายละเอียดมากค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9099  
   
61.90.109.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 06/30/10 เวลา 22:03:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

พี่หมอหนิงครับ
 
ผมงงเรย ตอนนี้ คือว่า หมอที่โรงบาล เขาบอกว่า ถ้าจะผ่าตัดก็ได้ แต่โอกาสหายก็คริ้งต่อครื่งอยู่ดี เลยแนะนำให้ไปริ้อ รักษารากไหม่เดิอนละครั้งครับ  แต่พอผมลองไปถามที่คลีนิกดู เขาบอกว่า สามสัปดาเอง สัปดาละครั่งด้วย ผม เลยงง ว่า ทำไมต่างกันจัง และก็ไม่แน่ใจด้วยว่า สามสัปดาจะหายไม่ แต่พี่ที่คลีนิกบอกว่า ปกติก็ไม่มีปัญหาไร  
 
ผมเลยไม่แนใจอะครับ เพราะของผมนี้เปฺ็นมานานแล้ว ถ้ารื้ออีกที ก็คงครั้งที่สอง แล้วก้ไม่อยากผ่าตัดด้วย ไม่รู้ว่าสามสัปดาที่ว่านั้นของคนที่เพิ่งทำหรอป่าว
 
พี่หมอหนืงช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
 
 Embarassed
 
ขอบคุณมากครับ
ส่งโดย: Deen
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 5  
   
180.180.207.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by