แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 462: การรักษารากฟัน  (จำนวนคนอ่าน 2755 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/13/10 เวลา 18:13:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

สวัสดีค่ะหมอหนิง  หนูได้ไปทำการรักษารากฟันที่ฟันกรามล่างซ้ายมา  คุณหมอบอกว่าเป็น 4 คลองราก  ครั้งเเรกที่ได้ทำ  คุณหมอก็บอกว่าอาจจะมีอาการปวดบ้างเพราะว่คุณหมอยังเอารากฟันออกไม่หมด  พออาทิตย์ที่ 2 ที่ไปทำคือเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา  คุณหมอไม่ได้บอกว่าฟันมันจะปวด เเต่ก็บอกว่าคุณหมอเอารากฟันออกหมดเเล้ว เเละคุณหมอก็ยังบอกอีกว่าให้เว้นไป 2 อาทิตย์  เพราะรักษาครั้งสุดท้ายคุณหมอจะอุดรากฟันก็ถือว่าเสร็จ
 
1.วันนี้หนูรู้สึกว่าเวลาเคาะๆ ที่ฟันก็รู้สึกเจ็บนิดๆ  น่ะค่ะ  นอกจากนี้มีอาการของเหงือกอักเสบรวมอยู่ด้วย(เหงือกอักเสบบริเวณฟันที่รักษา รากเเละฟันกรามถัดไปข้างใน) หนูไม่เข้าใจว่าเมื่อเอารากฟันออกไปหมดเเล้วทำไมยังรู้สึกเจ็บนิดๆ  อยู่  เป็นเพราะว่าเกี่ยวกับเหงือกอักเสบร่วมด้วยรึป่าวคะ  หรือว่าสาเหตุอื่นๆ ด้วย
 
2.เรื่องเดือยฟันค่ะ  มีเดือยฟันที่เป็นโลหะ(คุณหมอจะเป็นผู้ทำ)  กับเดือยฟันสำเร็จรูป  มีคนบอกว่าเดือยฟันสำเร็จรูปจะดีกว่าเดือยฟันโลหะ เพราะจะทำให้โอกาสเกิดรากฟันเเตกน้อยกว่า เเต่เดือยฟันโลหะเป็นเดือยที่คุณหมอวัดจากฟันของเราจริงๆ  หนูเข้าใจถูกมั้ยคะ  เเล้วคุณหมอว่าเดือยฟันเเบบไหนดีกว่ากันคะ
 
3.เรื่องราคาเดือยฟันน่ะค่ะ  หนูไปดูเเต่ละคลีนิคราคมันไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่  อยากทราบว่าราคาเดือยตามปกติมันอยู่ที่เท่าไหร่คะ  เอาทั้งที่เป็นโลหะ  กับสำเร็จรูปน่ะค่ะ  มีที่หนึ่งที่หนูรู้มา คือ ถ้าเป็นโลหะราคา 1500 บ. เเต่ถ้เป็นสำเร็จรูปอยู่ที่ 2500-3000 บ.  เเต่ที่คลีนิคที่หนูรักษารากฟันอยู่เขาไม่ได้บอกว่าเดือยฟันที่จะใส่ให้เราเ ป็นเดือยฟันประเภทใดเเต่ราคา 3000 บ. คุณหมอว่า 3000 บ.นี้มันเป็นเดือยฟันเเบบไหนหรอคะ
 
4.หนูมักจะเป็นโรคเหงือกอักเสบบ่อยมากน่ะค่ะ  เหงือกอักเสบเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกปวดฟันได้รึป่าวคะ  เพราะว่าหนูเป็นคนที่ชอบเครียดเเล้วก็นอนดึกด้วยนะค่ะ ไม่รู้ว่ามันมันเป็นสาเหตุรึป่าว
 
5.ฟันกรามน่ะค่ะมันเป็นเส้นๆ เหมือนฟันร้าวเลย  ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร  เค้าเรียกว่าฟันผุรึป่าวคะ  มันเป็นเส้นๆ  บริเวณผิวฟันด้านข้างน่ะค่ะ (ไม่ใช่ซอกฟันหรือตรงที่บดเคี้ยวนะคะ)  สามารถรักษาได้อย่างไรคะ  
 
รบกวนหมอหนิงช่วยตอบด้วยนะคะ  ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ส่งโดย: วรรณ     202.44.8.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 02/13/10 เวลา 19:11:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. อย่างแรกคือ ไม่ควรไปเคาะฟันเล่น เพราะการไปกระตุ้นฟัน อาจทำให้จากไม่เป็นโรค กลายเป็นโรคขึ้นมาได้ ระหว่างการรักษา เนื้อเยื่อรอบๆ รากฟันจะมีการซ่อมแซมเพื่อรักษาตนเอง ซึ่งต้องใช้เวลา // ส่วนเรื่องเหงือกอักเสบ จะเกี่ยวข้องกับโรคที่ปลายรากฟันหรือไม่ คงต้องให้คุณหมอตรวจดูค่ะ รายละเอียดน้อยเกินไปที่หมอจะฟันธงให้ได้ว่า เหงือกอักเสบ เป็นจากตัวของมันเอง หรือว่าเกิดจากโรคที่ปลายรากฟัน แต่อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ว่า หากเหงือกอักเสบจากโรคปลายรากฟัน มักจะก่อให้เกิดหนองออกมาไกลจากขอบเหงือก อาจออกมาเป็นตุ่ม แต่ถ้ามีเหงือกอักเสบตามขอบเหงือก เกิดจากตัวเหงือกของมันเอง อันมีสาเหตุจาก คราบจุลินทรีย์เป็นหลัก อาจเป็นเพราะช่วงที่รักษารากฟันอยู่ ไม่ควรได้เคี้ยวอาหารข้างนั้น หรือแปรงฟันไม่ค่อยสะอาด ก็เลยเกิดเหงือกอักเสบ ประมาณนี้น่ะค่ะ อย่างไรก็ดีแนะนำว่าควรไปให้คุณหมอตรวจดู จะทราบสาเหตุที่แน่นอนกว่าค่ะ
1.1 การสังเกตว่าโรคที่ปลายรากฟันหายดีพร้อมที่จะอุดคลองรากฟันหรือยัง ดูจาก อาการของผู้ป่วยจากการสอบถาม / อาการทางคลินิกจากคุณหมอตรวจ / ดูจากฟิล์มเอ็กซเรย์ ประมาณนี้ค่ะ  Smiley  
2. เรื่องคุณสมบัติของเดือยฟัน หนูเข้าใจถูกแล้ว ส่วนจะเลือกแบบไหนก็ได้ ทั้งนี้ก็ต้องดูสภาพของเนื้อฟันที่เหลืออยู่ด้วย บางทีไม่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้แบบไหน แต่ถ้าคุณหมอของหนูให้เลือกก็ค่อยเลือก ต้องดูว่าคุณหมอของหนูแนะนำแบบไหนด้วยหรือเปล่า
2.1 เดือยฟันแบบโลหะ ข้อดีคือลอกแบบจากคลองรากฟันของเรา จึงจะฟิตดี ข้อเสียอาจมีการกรอฟันเพิ่มเติมทำให้รากฟันอ่อนแอลง เดือยฟันแบบสำเร็จรูป มักเป็นเรซิ่น จึงมีความยืดหยุ่นกว่า แต่ข้อเสียคือ มันไม่ฟิตพอดี และเดือยฟันแบบนี้จะยึดติดแน่นกับคลองรากฟันด้วยกาวทันตกรรมที่รื้อออกยาก ประมาณว่า หากต้องมีการรื้อเดือยฟันเพื่อรักษาคลองรากฟันซ้ำ จะรื้อออกยากมาก หรือรื้อออกไม่ได้เลย ทำให้ต้องถอนฟันในที่สุด (กรณีที่การรักษารากฟันมีปัญหาน่ะค่ะ)
3. น่าจะเป็นแบบโลหะค่ะ
4. เหงือกอักเสบ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เจริญเติบโตมากมาย กลายเป็นคราบจุลินทรีย์มาทำอันตรายเหงือกและฟัน พอคราบจุลินทรีย์ตายทับถมกันหนาก็กลายเป็นหินปูน ทำให้เหงือกระคายเคือง อักเสบ มีเลือดออกได้ การรักษา คือการขูดหินปูนและเกลารากฟัน โดยคุณหมอ ลองไปหาเพื่อขอคำปรึกษาดูนะคะ อีกทั้งคนไข้จะต้องดูแลรักษาความสะอาดสุขภาพช่องปากให้ดีเป็นประจำด้วย ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันโรคไม่ให้กลับมาเป็นใหม่ และเหงือกของเราก็จะแข็งแรงไปได้นานที่สุด ค่ะ เหงือกอยู่ติดกับฟัน บางทีถ้าเป็นเหงือกอักเสบมากๆ ก็อาจเจ็บตรงฟันได้ ความเครียดทำให้ภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอ ก็อาจเป็นสาเหตุทางอ้อมที่ทำให้เป็นโรคได้ ไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม
5. หมอตอบประเด็นนี้ไม่ได้ เพราะนึกไม่ออกว่าเป็นเส้นอะไร คงต้องไปให้คุณหมอตัวเป็นๆ เขาตรวจดู คุณหมอเขาตรวจแป๊บเดียวก็จะทราบว่าเป็นฟันผุ หรือเป็นเส้นอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม ฟันกรามตรงด้านใกล้แก้ม จะมีเส้นแบ่งกลางฟันลากต่อจากด้านบดเคี้ยว ซึ่งจะเห็นว่าด้านบดเคี้ยวมีเส้น มีหลุมอยู่ตัดไปตัดมา หลายเส้น ถ้ามีฟันผุ เส้นนี้/จุดนี้ จะเป็นสีดำ หรือน้ำตาล รักษาด้วยการอุดฟันค่ะ ถ้าเป็นรอยร้าว จะเป็นเส้นใสๆ บาง ต้องส่องไฟดูหรือทาน้ำยาตรวจดูจึงจะเห็น อยู่ตรงไหนก็ได้ตามผิวฟัน คล้ายๆ รอยแก้วร้าว แก้วแตก ยังไงหากสงสัย แนะนำว่าให้คุณหมอตรวจดูน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าค่ะ  Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9099  
   
58.11.30.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 02/13/10 เวลา 19:26:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบคุณหมอหนิงมากนะคะสำหรับคำเเนะนำดี  
 
เเต่อยากจะรบกวนถามต่อไปอีกหน่อยน่ะค่ะ  
 
1.การรักษารากฟันครั้งสุดท้าย  คุณหมอเค้าจะตรวจอีกที  ทำความสะอาดรากฟันอีกครั้ง  เอกซเรย์อีกทีรึป่าวคะว่าพร้อมที่จะอุดหรือยัง
 
2.การที่เขาไม่ได้บอกว่าเดือยที่จะใช้ทำนั้นเป็นเดือยชนิดใด  ตอนเเรกหนูกะจะไปครอบฟันอีกคลีนิคหนึ่งที่ไม่ใช่ที่รักษารากฟันน่ะค่ะ  จะได้มั้ยคะ  เคยโทรศัพท์ไปถามดูเเล้ว  เค้าบอกว่าได้  เเต่ถ้าจะให้ดีหนูควรที่จะขอประวัติการรักษารากฟันที่นั่นมาด้วย  เเต่คลีนิคที่ๆหนูไปรักษารากฟัน  เป็นคุณหมอคนเดียวกับที่รักษารากฟันที่คลีนิคเเห่งใหม่ที่หนูจะไปครอบฟัน  ไม่ทราบว่าจะลองขอคุยกับคุณหมอเพื่อขอประวัติการรักษาได้มั้ยคะ  เพื่อไปทำที่คลีนิคใหม่ เพราะเท่าที่หนูรู้มาก็คือคุณหมอที่ทำเดือยฟันเเละครอบฟันเป็นคุณหมอเฉพาะทา งอีกคน
ส่งโดย: วรรณ     202.44.8.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 02/13/10 เวลา 20:02:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. ตรวจอีกที / ทำความสะอาดรากอีกครั้ง / เอ็กซเรย์ อาจจะไม่ แต่หลังจากอุดแล้วค่อยถ่ายเอ็กซเรย์ค่ะ
2. ทำได้ แต่แนะนำว่าทำที่เดิมดีกว่า สะดวกกว่า หากกังวลเรื่องค่ารักษาลองต่อรองดูค่ะ แต่ถ้าอยากไปทำที่อื่นจริงๆ ก็ดังที่ทราบ ควรนำประวัติการรักษาไปด้วย ค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9099  
   
58.11.30.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by