แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 401: ปรึกษาเรื่องฟันค่ะ  (จำนวนคนอ่าน 2129 ครั้ง)
« เมื่อ: 01/18/10 เวลา 12:46:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

1. หนูไปขูดหินปูนมาค่ะ  คุณหมอมือหนักมาก  กลับมานี่เป็นไข้เลย  ตอนขูดอยู่รู้สึกว่าเลือดกระจายเลยล่ะค่ะ  อยากถามหมอหนิงหน่อยอ่ะค่ะ  คือหลังจากขูดหินปูนเสร็จ  มันรู้สึกเสียวฟันเกือบทั้งปากเลย  เเละมีบางบริเวณที่เกิดเหงือกอักเสบด้วย  มันเกี่ยวกับการที่หนูไปขูดหินปูนหรือเปล่าคะ  เพราะรู้สึกว่าตอนขูดมันโดนเหงือกด้วยน่ะค่ะ  ผ่านไป 2 วันเเล้ว  อาการเสียวฟันก็ยังไม่หายเลย  เเล้วก็รู้สึกว่าฟันมันบางขึ้นด้วยนะค่ะ  ควรทำอย่างไรดีคะ
 
2. อยากทราบค่ะว่าวิธีการสังเกตุวัสดุอุดฟันเสื่อม  ดูได้อย่างไร  เพราะบางครั้งก็รู้สึกปวดหนึบๆ  ตรงฟันที่อุดน่ะค่ะ  วันนั้นไปตรวจคุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะฟันคุดก็ได้  ต้องผ่าฟันคุดออกก่อนจึงจะทราบน่ะค่ะ  จริงรึป่าวคะ  เเต่ฟันคุดซี่นั้นมันน่าจะขึ้นเต็มเเล้ว  เพราะมันขึ้นมาเป็นปีเเล้วน่ะค่ะ
 
3. ตอนนี้หนูกำลังจะไปรักษารากฟัน  ประมาณ 4 คลองรากได้เเล้วน่ะค่ะ  หนูควรจะไปรักษาดีไหมคะ  หรือว่าควรถอนเเล้วใส่ฟันปลอมเลยดีกว่า  เพราะกลัวว่าถ้ารักษามาเเล้วมันอาจจะไปประสบความสำเร็จหรืออาจจะประสบความสำ เร็จได้น้อย  เเล้วถ้ารักษาเเล้วมันจะอยู่กับเรานานมั้ยคะ  ช่วยเเนะนำทีค่ะ
 
4. หนูรู้สึกปวดหนึบๆ  บริเวณซอกฟันระหว่างฟันกรามใหญ่กับกรามน้อยน่ะค่ะ  ไปให้คุณหมอตรวจดู  คุณหมอบอกว่าต้องขูดหินปูนก่อนจึงจะเห็นอาการเเน่ชัด  เเละตรงนั้นก็อักเสบด้วยน่ะค่ะ  พอขูดหินปูนเสร็จก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่  มันเป็นเพราะอะไรคะ  คุณหมอคิดว่ามันผุรึป่าว  
 
5. เรื่องนำยาบ้วนปาก  คุณหมอคิดว่าควรใช้มั้ยคะ  เพราะเคยได้ยินว่าใช้เเล้วไม่ดี  ถ้าใช้ต้องใช้ตลอด  ถ้าควรใช้ควรเลือกใช้เเบบไหนดี
ส่งโดย: นัน     202.28.62.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 01/18/10 เวลา 13:09:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. อาการเสียวฟัน จะเกิดขึ้นได้ชั่วคราว เพราะเมื่อก่อนมีหินปูนอยู่ปกปิดผิวฟัน พอขูดหินปูนออกไป ผิวฟันก็เปิดเผย รอสักพักเมื่อเหงือกหายดี อาการก็น่าจะลดลง ช่วงนี้หากเสียวฟัน ลองใช้ยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มีฤทธิ์ลดการเสียวฟันมาใช้ดูนะคะ ส่วนเรื่องขูดหินปูนแล้วโดนเหงือก มันเป็นปกติที่ย่อมต้องโดนเหงือกเพราะการขูดหินปูน นอกจากหวังผลเอาหินปูนออกไปแล้ว ก็หวังผลเพื่อการรักษาเหงือก การที่คุณหมอเอาเครื่องมือคมๆ ไปขูดเหงือกเพื่อกำจัดเหงือกที่ตายทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เหงือกใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแทนที่ด้วยนั่นเอง เรื่องรู้สึกว่าฟันบางลง ก็ไม่ใช่ ถ้าขูดในระดับปกติ ปีละ 1-2 ครั้ง เครื่องมือขูดหินปูนออกแบบมาไม่ให้ทำอันตรายเจาะเนื้อฟัน เนื้อฟันนั้นแข็งเกินกว่าที่เจาะลงไปได้ง่ายๆ
2. วัสดุอุดฟันเสื่อม สังเกตด้วยตนเองอาจจะยากหน่อย ถ้าเอาเป็นละเอียดคงต้องให้คุณหมอตรวจดู คนไข้จะดูโดยเบื้องต้น ก็เช่น มีอาการเสียวฟัน มีขอบบิ่น หรือแตก เว้าหรือแหว่งหวำลงไป กดเจ็บ เสียวจี๊ดเวลาขบฟัน ถ้าเป็นวัสดุสีเหมือนฟันอาจสังเกตจากสีเปลี่ยน อาการปวดหนึบๆ ที่บอก มักเกิดจากเหงือก โดยเฉพาะลองสังเกตตรงซอกฟัน มักอักเสบได้ง่ายหากไม่ค่อยใช้ไหมขัดฟัน อาการปวดฟันมักจะปวดจี๊ด ปวดมาก ไม่ค่อยปวดหนึบๆ ค่ะ
2.1 เรื่องฟันคุด ก็อาจเป็นสาเหตุได้ ฟันคุดมีแต่ปัญหาในตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเหงือกอักเสบ ฟันผุ ขึ้นไม่ถูกที่ เศษอาหารติด ฯลฯ ควรถอนออก  ไม่ว่าจะขึ้นเต็มซี่หรือไม่เต็มซี่ คุณหมอก็น่าจะเอาออกให้ได้ไม่ยากค่ะ
3. ฟันผุทะลุประสาทฟันแล้ว ควรรักษารากฟัน เพื่อรักษาฟันซี่นั้นไว้ให้อยู่ในช่องปากได้อีกระยะ ดีกว่าการถอนฟัน เพราะฟันปลอมมีประสิทธิภาพในการเคี้ยอาหารน้อยกว่าฟันจริง แต่ข้อควรระวังก็คือ ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมาแล้ว จะเปราะบาง // อัตราการประสบความสำเร็จก็แตกต่างกันไป ขึ้นกับปริมาณโรคที่มี โรคที่เป็นมากน้อยแค่ไหน ระบบรากฟันเป็นอย่างไร กี่ราก ฯลฯ ส่วนเรื่องว่าจะคุ้มไหม อันนี้มันแล้วแต่บุคคลน่ะค่ะ ไม่มีผิดมีถูก บางคนเห็นความสำคัญของฟันมาก ก็คงเสี่ยงที่จะทำ แต่บางคนไม่เห็นความสำคัญหรือมีภาวะที่ต้องจำใจ ก็คงต้องถอน เพราะค่าใช้จ่ายก็สูง ไหนจะต้องมีค่าบูรณะฟัน ทั้งการทำเดือยและครอบฟันอีก ที่ต้องพิจารณาค่ะ // อายุของฟันที่ผ่านการรักษรากฟันมาแล้ว มีงานวิจัยบอกว่า มีอายุประมาณ 10 ปี อาจน้อยหรือมากกว่านั้นก็แล้วแต่การใช้งาน โดยฟันกรามจะประสบความสำเร็จยากกว่าฟันหน้าค่ะ
4. กล่าวไว้แล้วในข้อ 2 ส่วนเรื่องฟันผุ ต้องให้คุณหมอใช้เครื่องมือเขี่ยๆ ตรวจๆ ดู จึงจะทราบ การถ่ายเอ็กซเรย์ประกอบการวินิจฉัยจะช่วยได้ค่ะ
5. น้ำยาบ้วนปากไม่มีความจำเป็น หากเราสามารถแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้สม่ำเสมอ หากต้องการใช้ ขอให้ใช้เป็นส่วนเสริม หมายถึง ถึงเราจะใช้น้ำยาบ้วนปากแทบตาย แต่ไม่แปรงฟัน อย่างไรฟันก็คงไม่สะอาด น้ำยาบ้วนปากหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานควรระมัดระวัง เพราะจะทำให้เชื้อโรคประจำถิ่นที่อยู่ในช่องปาก ตายไปด้วยไม่เลือก โชคร้ายจะมีเชื้อโรคแปลกๆ มาอาศัยแทน เช่นพวกเชื้อรา นอกจากนี้น้ำยาบ้วนปากบางชนิดจะทำให้มีคราบสีติดฟัน ฟันจะเป็นคราบคล้ำๆ ค่ะ ฉะนั้นหากต้องการใช้น้ำยาบ้วนปาก อย่าใช้บ่อย ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ ส่วนจะเลือกใช้ชนิดไหนก็แล้วแต่ความชอบ เพราะมีหลายรสหลายชาติเหลือเกิน น้ำยาบ้วนปากชนิด "คลอเฮ็กซิดีน" มีฤทธิ์ลดการอักเสบของเหงือกได้ค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9099  
   
58.9.81.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by