แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 380: ถอนหรือรักษารากฟันแล้วครอบฟันดีครับ  (จำนวนคนอ่าน 34289 ครั้ง)
« เมื่อ: 01/06/10 เวลา 00:53:23 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอรบกวนคุณหมอด้วยนะครับ
 
เมื่อ 6 เดือนก่อนไปอุดฟันมาครับ ฟันกรามบนด้านซ้าย(ถัดจากฟันเขี้ยว 2 ซี่)
ผ่านไปได้ 1 เดือน รู้สึกเหมือนฟันที่อุดแตกเป็นรูหรือร่องเล็กๆ เพราะทานอาหารแล้วมันติด ก็เลยกลับไปให้หมอดู หมอบอกว่าไม่มีอะไร ปกติดี อาจเป็นเพราะฟันไม่เสมอเลยเกิดเป็นร่องฟัน (ซึ่งผมคิดว่าคงอุดไม่เสมอ) หมอก็กรอให้นิดหน่อย แล้วบอกว่าถ้าผิดปกติก็ให้มาใหม่
หลังจากนั้นอีก 1 เดือน ก็รู้สึกว่าเวลาเคี้ยวอะไรบางทีเหมือนที่อุดมันแตก หรือบางทีเหมือนเป็นเศษฟันเล็กๆแตกออกมา กลับไปหาหมอ หมอก็บอกว่าปกติ
จนเมื่อวานนี้ เคี้ยวๆอยู่ก็เหมือนกัดโดนอะไรแล้วติดเข้าไปฟันอย่างแรง เอาไม้จิ้มฟันแคะดู ปรากฏว่ากัมมันที่อุดมันแตกหลุดออกมา ฟันเป็นรูใหญ่เลยครับ แล้วก็ด้านข้างของฟันซีกนั้นก็แตก แล้วก็โยกด้วย มีอาการเจ็บไม่มาก แต่เคี้ยวอะไรไม่ได้
หมอที่ไปอุดอยู่ไกลบ้านครับ(เป็นคลีนิคทันตกรรม) ก็เลยไป รพ.เอกชนใหญ่ใกล้บ้าน
หมอบอกว่าฟันแตกครับ ก็ดึงฟันแตกที่โยกๆออก ก็จะเหลือตัวฟันกับที่อุดอยู่ที่ไม่แตก อยู่อีกด้านของซี่นั้นครับ ก็เล่าที่ไปที่มาให้หมอฟัง หมอบอกว่าเป็นเพราะไปเคี้ยวอะไรแข็งๆหรือเปล่า (ทานข้าวธรรมดานี่แหละครับหมูทอดกับข้าวสวย)  ส่วนการรักษานั้นต้องรักษารากฟันก่อน เพราะส่วนที่แตกที่ดึงออกแล้ว มันเห็นโพรงประสาทฟันเป็นรูเล็กๆครับ อุดไม่ได้ ต้องรักษารากฟันก่อน แล้วก็ต้องครอบฟัน เพราะฟันส่วนที่เหลือมันเหลือฝั่งเดียวแถมยังเหลือไม่เยอะเพราะส่วนนึงของที ่เหลือก็เป็นกัมมันที่อุดอยู่ อุดไม่ได้ไม่มีที่เกาะ ต้องรื้อออกหมดใหม่
อ่อ มีอีกอย่างนึงครับที่หมอบอกว่า งง งง และไม่เข้าใจ ก็คือ หมอเห็นแล้วถามผมว่าไม่ปวดฟัน เสียวฟันเหรอ เพราะฟันมันแตกแล้วก็ฟันมันก็บาง เหมือนกับว่าการอุดครั้งก่อนมันเป็นรูเล็กๆ เล็กมากแล้วหมอคนที่ผมไปอุดฟันเค้าก็อุดกลบรูนั้นไป โดยไม่รักษารากฟัน ซึ่งหมอคนนี้บอกว่าปกติขนาดนี้ต้องปวดฟัน หรือเสียวฟัน อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ คุณหมอคิดว่าน่าจะเกิดจากอะไรครับ ที่ผมไม่ปวดไม่เสียวฟัน
ตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรครับ เพราะว่าจะกลับไปให้หมอคนที่อุดดูก่อน หมอคนนี้เลยอุดชั่วคราวให้ก่อน หมอจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน
ปัญหาคือว่า โทรไปหาหมอคนนั้นคิวไม่ว่างครับ จะว่างก็วันที่ 14 อีก 1 สัปดาห์เลย แล้วหมอก็บอกว่าอยากให้รอกลับมาหาหมอดีกว่า และหมอบอกอีกอย่างบางทีอาจจะไม่ต้องจ่ายตังค์หรือจ่ายน้อยก็ได้ (หมอคนที่ รพ. บอกว่าเบ็ดเสร็จถ้ารักษารากฟัน ครอบฟัน เสร็จ มีค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่งหมื่นต้นๆครับ) ทีนี้ปัญหามันก็คือว่า ที่หมอ รพ. อุดให้ชั่วคราว มันจะอยู่ได้ 3-4 วัน นี่สิครับ แล้วหมอคนที่ผมอุดด้วยนั้นจะนัดได้ก็วันที่ 14 อีก 9 วันแหนะ ผมควรจะทำยังไงดีครับ
 
สรุปส่วนฟันที่เหลือนั้นมีความสมบูรณ์ ดังนี้ครับ
-ฟันที่เหลือ ประมาณ 30-40%
-เนื้อตัวฟันเหลือฝั่งเดียวด้านติดกระพุ้งแก้มบวกกับกัมมันเดิมที่ไม่แตกที่ ยังติดฟันส่วนนั้นอยู่
-ฟันส่วนที่แตกโยก ดึงออกแล้วเกิดเป็นรูเล็กๆ เห็นโพรงประสาทฟัน  
 
คำถาม
1. ผมควรทำยังไงดีครับ ถ้าจะไปหาหมอเดิมก็อีกตั้ง 9 วัน แต่ที่หมอ รพ. อุดให้ชั่วคราวจะอยู่ได้ 3-4 วัน
2. จากประวัติอาการและการรักษาทั้งหมด คุณหมอคิดว่าควรจะไปหาหมอคนเดิม หรือเปลี่ยนหมอใหม่ดี
3. ระหว่างรักษารากฟันแล้วครอบฟัน กับถอนออกเลยแล้วใส่ฟันปลอม ควรจะเลือกแบบไหนดีครับ ตามตัวฟันที่เหลือข้างต้นน่ะครับ
4. ถ้าถอนแล้วใส่ฟันปลอม ต้องทำการรักษารากฟันก่อนมั้ยครับ
5. ค่าใช้จ่ายระหว่างถอน + ฟันปลอม 1 ซี่ กับรักษารากฟัน ครอบฟัน ประมาณเท่าไหร่ ต่างกันเยอะมั้ยครับ แล้วระยะไกลสัก 4-5 ปี อันไหนจะคุ้มกว่ากันครับ
ส่งโดย: สุรชัย     124.157.135.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 01/10/10 เวลา 18:52:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เกริ่น
 
เรื่องฟันผุ บางคนภูมิดีก็ไม่มีอาการก็ได้ เรียกว่า โพรงประสาทฟันค่อยๆ แห้งตายไปทีละน้อยๆ อย่างช้าๆ เลยไม่มีอาการ บางคนอาจมีอาการแบบเฉีบบพลันเจ็บจี๊ด หรือเจ็บปวดทรมานเป็นวันๆ ก็มี
 
เรื่องกรอฟันแล้ว คุณหมอต้องตัดสินใจว่าจะอุดซ้ำ หรือเปลี่ยนแปลงการรักษาเป็นรักษารากฟัน หรือถอนฟัน บางทีก็พูดยาก เพราะบางครั้งการสังเกตอาการโดยใส่ยาแล้วอุดไปก่อน บางทีฟันก็หายดีได้ แล้วแต่การตอบสนองของร่างกาย แต่บางทีก็ไม่หาย จะมองว่าทำดีหรือไม่ดี ก็คงมองได้ยาก เพราะแล้วแต่เจตนามากกว่า  Smiley
 
คำตอบ
1. ให้ดีที่สุดคือ เริ่มรักษารากฟันและทำครอบฟันไปเลย แต่อยากจะอุดชั่วคราวไปก่อนแล้วค่อยไปคุยกับคุณหมอคนเก่า อันนี้ก็คงแล้วแต่คนไข้ จริงๆ ถ้าระมัดระวังการเคี้ยวอาหาร ก็อาจอยู่ได้มากกว่า 3-4 วันอยู่ค่ะ แต่ที่ต้องห่วงเพิ่มคือ ระวังไม่ให้มันแตกไปเพิ่มเติม
2. ใครก็ได้ แล้วแต่ความมั่นใจของคนไข้เลยนะคะ Smiley
3. การรักษารากฟันและครอบฟัน ย่อมดีกว่าอยู่แล้วค่ะ ถ้าใจสู้ มีงบพอสมควร ก็ควรเก็บรักษาฟันไว้ค่ะ
4. ถ้าวางแผนจะถอนและใส่ฟัน ก็ไม่ต้องรักษารากฟันแล้วค่ะ
5. ถ้าฟันปลอมแบบดีๆ ราคาจะแพงพอๆ กับการรักษารากฟัน+ครอบฟันล่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นฟันปลอมแบบถูกๆ ก็ถูกจริงๆ แต่ประสิทธิภาพไม่ค่อยดี ใหญ่เทอะทะ
5.1 ไม่ว่าจะกี่ปี ระยะสั้น กลาง ยาว การรักษารากฟัน+ครอบฟันย่อมดีกว่าการถอนฟันและใส่ฟันปลอมค่ะ  
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.11.28.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 01/15/10 เวลา 09:43:22 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบคุณครับคุณหมอหนิง
สรุปว่าจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับฟันเลยครับ
หลังจากที่หาหมอที่ รพ.ใกล้บ้านแล้ว ผมก็รอกลับไปพบหมอเดิมที่อุดให้ครับ
หมอก็ยืนยันว่าหมอทำถูกตามหลักทุกอย่าง แล้วก็รูที่อุดก็รูเล็กนิดเดียว
หมอก็ยืนยันสาเหตุว่าอาจเกิดจาก
1. ฟันร้าว ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้เพราะหมอบอกว่าถ้าร้าวผมเองต้องมีอาการปวดหรือเสียวฟันเว ลาเคี้ยว
2. ไปเคี้ยวอะไรแข็งๆอย่างรุนแรงแน่นอน ซึ่งหมอยืนยันว่าผมต้องไปเคี้ยวอะไรแข็งๆมาแน่นอน เช่นก้อนกรวดเล็กๆในข้าว ผมก็แจ้งหมอไปว่าพฤติกรรมการเคี้ยว ก็เคี้ยวอาหารปกติ ข้าว หมู ไก่ ประมาณนั้น
 
แต่ผมก็ยังไม่ได้ทำอะไร ก็ไปหาหมอที่ รพ.ศิริราช อีกแห่ง ปรากฏว่าผลแตกต่างจากทั้งสองแห่งที่กล่าวมา หมอบอกว่าตัวฟันเหลือน้อย ไม่คุ้มกับการรักษารากฟันแล้วทำครอบฟัน เพราะทำไปก็คงอยู่ได้ไม่นาน หมอแนะนำให้ถอนแล้วก็ใส่ฟันแทน
 
แล้วชีวิตก็มาถึงทางแยกแล้วสิครับ ตกลงผมจะเชื่อใครและทำยังไงดีครับนี่
1. เรื่องรักษารากนั้น เวลาและเงินไม่เป็นปัญหาครับ แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจว่า ทำแล้วจะจบเลยหรือเปล่า จะมีปัญหาตามมาอีกมั้ย จนสุดท้ายต้องทอนทิ้ง เสียเงิน เสียเวลาไป ยิ่งมีเสียงที่แตกต่างมาจากหมอที่ศิริราชด้วยแล้ว
2. ถ้าถอนแล้วใส่ฟันปลอมแบบถอดได้นั้น ไม่ทราบว่าซี่ที่เป็นปัญหาอยู่นี่ คือ ฟันกรามเล็ก บนด้านซ้าย จะเป็นปัญหากับการคบเคี้ยวหรือไม่ จะเคี้ยวได้ถนัดหรือไม่ เคี้ยวๆอยู่จะมีปัญหาฟันปลอมหลุดหรือไม่ เห็นหมอที่อุดให้เค้าบอกว่าเป็นซี่ที่รับน้ำหนักในการเคี้ยวมากที่สุด
 
ขอบคุณมากครับ
ส่งโดย: สุรชัย Email     124.157.135.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 01/15/10 เวลา 10:17:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. ก็ลองไปให้คุณหมออีกซัก 2-3 ท่านตรวจดู เพื่อยื่นยันผลก็ได้ค่ะ จนกว่าจะมั่นใจว่าจะเลือกทางไหน หมอเองก็คงตอบไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่สามารถตรวจฟันของคุณได้ ไม่รู้ว่าเนื้อฟันเหลือน้อยหรือไม่อย่างไร บางทีวิจารณญาณของหมอแต่ละคนอาจแตกต่างกันบ้าง
1.1 เรื่องการบูรณะฟัน ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล คนบางคนเลือกที่จะเก็บฟันไว้สุดชีวิตแม้จะมีโอกาสหายน้อย ก็ยอมเสี่ยงที่จะลองรักษาดู ในขณะที่บางคนไม่ค่อยเห็นความสำคัญและเลือกที่จะถอนฟันทิ้ง ตั้งแต่พบว่าฟันผุมาก
1.2 หมออยากให้ข้อคิดข้อหนึ่งว่า บางคนคิดว่า เมื่อรักษารากฟันแล้ว ฟันน่าจะอยู่ได้ตลอดไป แท้ที่จริงแล้ว ฟันที่ผุทะลุประสาทฟันแล้ว หมายถึง ฟันนั้นได้ตายไปแล้ว การรักษารากฟันเป็นเพียงการบูรณะฟันให้ยึดอยู่ในช่องปากได้อีกซักระยะ มีงานวิจัยบอกว่าฟันกรามที่ผุทะลุประสาทฟันและบูรณะฟันด้วยการรักษารากฟัน+ค รอบฟันแล้ว มีอายุอยู่ในช่องปากได้อีกไม่เกิน 10 ปี บางคน อาจอยู่ได้ 2-3 ปี หรือบางคนอยู่ได้ 1 เดียว ฟันก็หมดสภาพที่จะใช้งานได้ต่อไป  
1.3 ถ้าไม่ยึดติด จิตใจก็น่าจะสบายขึ้น
2. ฟันปลอมแบบถอดได้ มีประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารไม่ดีนัก ซึ่งโดยปกติพบว่า แรงบดเคี้ยวจากฟันปลอมน้อยกว่าฟันธรรมชาติ 10 เท่า เช่น ถ้าเคยเคี้ยวหมูได้ ฟันปลอมย่อมเคี้ยวหมูแบบเดิมไม่ได้
2.1 ฟันปลอมแบบถอดได้ ยังแบ่งประเภทย่อยๆ เป็นอีกหลายชนิด บางชนิดจะใหญ่ มีตะขอช่วยเกี่ยวฟันและน่ารำคาญเวลาใช้งาน บางชนิดขนาดเล็กแต่ก็เสี่ยงต่อการหลุดได้ง่าย
2.2 หากท้ายที่สุด ตัดสินใจที่จะถอนฟันแล้ว ก็ค่อยๆ หาข้อมูลเรื่องฟันปลอมก็ได้ค่ะ กว่าแผลจะหาย คงอีกซักพัก ไม่ต้องรีบ ค่อยปรึกษาคุณหมอเขา ขอดูตัวอย่างของจริง สอบถามจากหมอตัวเป็นๆ น่าจะได้ข้อมูลที่ดีกว่า เพราะเรื่องฟันปลอมมีรายละเอียดมากจริงๆ จาระไนไม่หวาดไม่ไหว
2.3 การทำรากฟันเทียมก็น่าสนใจในปัจจุบัน ราคาประมาณ 5 หมื่นขึ้นไป เป็นฟันปลอมที่ใกล้เคียงฟันจริงมากที่สุดในปัจจุบันค่ะ ไว้ลองปรึกษาคุณหมอของคุณดูนะคะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.83.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 01/18/10 เวลา 17:17:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

ขอบคุณครับคุณหมอหนิง
สรุปว่าตอนนี้ไปทำการรักษารากฟันมาแล้วครับ แล้วก็ตามกระบวนการจนถึงครอบฟันครับ
ลองไปเชคที่คลีนิคอีกที่นึง ซึ่งรู้จักกับหมอที่นั่นครับ (แต่อยู่ไกลบ้านมาก)
สรุปว่ายังสามารถรักษารากฟันและทำครอบได้ครับ
ก็เลยกลับมาทำที่โรงบาลใกล้บ้านซึ่งหมอที่รู้จักก็บอกว่าที่นั่นก็โอเค ใกล้บ้านด้วย
เพราะต้องไปมาอีกหลายครั้ง
สรุปว่าที่ฟันแตก ทั้งสองหมอให้ความเห็นว่า (หมอที่รู้จักกับหมอที่โรงพยาบาล)
จากร่องรอยที่เหลือ ตัวเนื้อฟันเหลือน้อยและบาง ตัวอุดฟันมีขนาดใหญ่ อาจเกิดจากหมอที่อุดคว้านเนื้อฟันออกมากเกินไป ทำให้ฟันบาง ซึ่ง ณ ตอนนั้นทั้งสองหมอก็บอกไม่ได้ว่า ขนาดที่คว้านออกกับขนาดฟันที่ผุสมดุลกันหรือไม่ เพราะไม่ได้เห็นสภาพตอนนั้น (ซึ่งวันก่อนที่ไปหาหมอที่อุดให้ บอกว่ารูที่อุดนิดเดียวซึ่งแย้งกัน)
ทั้งนี้ทั้งสองหมอก็ให้ความเห็นว่าเรื่องนี้มันแล้วแต่ดุลพินิจของหมอแต่ละค น เพราะแต่ละคนก็มีดุลพินิจและประสปการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่หมอทุกคนก็จะเต็มที่อย่างน้อยก็ 80% ขึ้นทุกคน
เรื่องของเรื่องก็ไม่เพราะอะไรหรอกครับ ไม่ได้ต้องการเอาเรื่องอะไรหมอที่อุดหรอกครับ
เพียงแต่จะได้รับทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงเท่านั้น เพื่อเป็นข้อมูลในการรักษาต่อไปเท่านั้น ผิดถูกก็ควรจะว่ากันตามข้อเท็จจริง ผิดก็ต้องกล้าที่จะยอมรับเท่านั้นแล่ะครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณหมอหนิงมากนะครับ ที่ใจดีเสียสละเวลาตอบคำถามต่างๆให้ ไม่ใช่เฉพาะกับผม รวมถึงกับทุกๆคน
 
ขอบคุณมากอีกครั้งครับ
ส่งโดย: สุรชัย Email     124.157.135.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 04/11/10 เวลา 21:48:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ ลบข้อความนี้

รบกวนถามหน่อยค่ะ คือเคยรักษารากฟัน และครอบฟันเมื่อปี 51 แต่พอปี52เหงือกที่ครอบฟันเป็นจุดหนองและเป็นอยู่ตลอดที่จุดเดิมจนปัจจุบัน และมีเสียวนิดๆ อยากทราบว่าควรถอนหรือทำงัยดีค่ะ ถ้ายังเก็บไว้จะมีผลกระทบอะไรบ้าง กลัวติดเชื้อหรือลุกลามนะค่ะ
ส่งโดย: พริม Email     118.173.156.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 05/25/10 เวลา 11:06:14 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ก็ต้องไปให้คุณหมอตรวจดูก่อนว่า จุดหนองเกิดจากอะไร เกิดจากฟันซี่นั้นมีปัญหา ก็รักษาที่ฟัน อาจรื้อครอบฟันแล้วรักษารากฟันซ้ำ หรือว่าเกิดจากโรคเหงือก ก็รักษา ขูดเกลาเหงือกให้สะอาด  
 
แต่ไม่ควรปล่อยมันไว้อย่างนั้น เพราะแน่นอนมันคือแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และอาจลุกลามได้ วันดีคืนร้าย เกิดบวมขึ้นมาใหญ่โตจะอันตราย
 
ขอให้โชคดีในการรักษานะคะ Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.78.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by